เทรด Forex ระยะสั้น vs ระยะยาว แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ?

ระยะเวลาในการเทรด Forex

  • ระยะเวลาในการเทรด Forex หมายถึง กรอบเวลาที่เทรดเดอร์ใช้ถือครองคู่สกุลเงินก่อนที่จะปิดสถานะ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ระยะสั้น และ ระยะยาว
  • เทรดระยะสั้น คือ การซื้อ-ขาย เปิดและปิดตำแหน่งภายในกรอบเวลาสั้นๆ (วินาที นาที ชั่วโมง หรือวัน) ส่วนใหญ่เทรดเดอร์จะเปิดและปิดสถานะบ่อยครั้ง อาจจะหลายครั้งต่อวัน
  • เทรดระยะยาว คือ การซื้อและถือครองคู่สกุลเงินนั้นเป็นเวลานาน (สัปดาห์ หลายเดือน หรือหลายปี) โดยเทรดเดอร์จะมองภาพรวมเน้นไปที่ แนวโน้มของตลาด

ความแตกต่างของการเทรดระยะสั้นและระยะยาว

  • อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าการเทรด Forex มีระยะเวลาการถือครองแบบระยะสั้นและระยาว
  • ทั้ง 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการวิเคราะห์ตลาด , กลยุทธ์ที่ใช้เทรด , รูปแบบการเทรดรวมไปถึงพฤติกรรมของเทรดเดอร์ในการติดตามราคา
  • ทั้ง 2 แบบ ไม่มีข้อผิดถูกในการเลือกใช้ แต่ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเทรดเดอร์และมุมมองต่อตลาด Forex ณ ช่วงเวลานั้นว่าเทรดเดอร์อยากจะเลือกใช้การเทรดแบบใด

กลยุทธ์การเทรด

  • ระยะสั้น: เน้นการศึกษารูปแบบกราฟราคา ตัวชี้วัดและอินดิเคเตอร์ เพื่อหาจังหวะเข้า-ออกตลาด เพราะการเทรดระยะสั้นต้องการความผันผวนของราคาเพื่อทำกำไรจากรูปแบบกราฟในอดีต
  • ระยะยาว: เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน มองแนวโน้มเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อมูลค่าของค่าเงิน มุมมองในการเทรดจะเน้นภาพรวมของราคาสกุลเงิน

ตัวอย่างกลยุทธ์

  • ระยะสั้น
  • Scalping: เปิดและปิดตำแหน่งภายในเวลาไม่กี่วินาทีหรือหลายนาที ทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อย เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ตัดสินใจรวดเร็ว รับมือกับความเครียดได้ดี
  • Day trading: การเทรดแบบเปิดและปิดตำแหน่งภายในวัน เน้นทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระหว่างวัน เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ชอบวิเคราะห์กราฟราคาและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
  • Swing trading: การเทรดแบบนี้จะเทรดภายในระยะเวลาไม่กี่วันหรือหลายสัปดาห์ เน้นทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคา โดยกลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่อาศัยเวลานานที่สุดในหมวดการเทรดระยะสั้น
  • ระยะยาว
  • Position trading: กลยุทธ์นี้จะเทรดภายในระยะเวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือหลายปี เน้นทำกำไรจากแนวโน้มระยะยาวของราคา เหมาะกับนักลงทุนที่มีเวลา อดทน วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และรับความเสี่ยงต่ำ
  • Trend trading: เปิดและปิดตำแหน่งตามแนวโน้มระยะยาวของราคา เน้นทำกำไรจากการขึ้นหรือลงของราคาในระยะยาว มีทักษะความรู้เรื่องแนวรับแนวต้าน เหมาะกับนักลงทุนวิเคราะห์แนวโน้มเก่งและรับความเสี่ยงต่ำ

เปรียบเทียบกลยุทธ์เทรด ระยะสั้น vs ระยะยาว

เปรียบเทียบกลยุทธ์เทรด ระยะสั้น vs ระยะยาว

ระยะเวลาติดตาม

  • ระยะสั้น: เทรดเดอร์จำเป็นต้องติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของเทรดเดอร์ในการเทรดระยะสั้นนี้ มักจะเปิด-ปิดออเดอร์ค่อนข้างบ่อย
  • ระยะยาว: ติดตามตลาดเป็นระยะๆ อาจจะใช้เวลา 4-5 วันหรือสัปดาห์หนึ่งเพื่อติดตามผล ใช้การวิเคราะห์แนวโน้มในภาพรวม โดยรูปแบบการเทรดนี้จะเน้นตั้งจุดทำกำไร-ขาดทุนเอาไว้ และรอราคาวิ่งไปตามที่วิเคราะห์

ทักษะที่จำเป็น

  • ระยะสั้น: เทรดเดอร์ที่ชอบการเทรดระยะสั้น จะต้องวินัย อดทน ตัดสินใจรวดเร็ว รับมือกับความกดดันได้สูง มีความรู้และความเข้าใจต่อเครื่องมือชี้วัดและอินดิเคเตอร์อย่างลึกซึ้ง
  • ระยะยาว: เทรดเดอร์ต้องเป็นคนที่มีความอดทน ใจเย็น วิเคราะห์ภาพรวมอย่างเฉียบขาด ชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะคู่สกุลเงินที่ตนเองถือครองอยู่และสามารถวิเคราะห์ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินได้

เงินทุน

  • เงินทุนที่ต้องการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรด , เป้าหมาย , การยอมรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
  • ระยะสั้น: ต้องการเงินทุนน้อยเพราะความเสี่ยงต่อเงินทุน ค่อนข้างสูง โอกาสสูญเสียเงินทุนเร็ว การเทรดระยะสั้น มักใช้ Leverage และ Margin ในการขยายเงินทุนและผลกำไร แต่ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงไปด้วยเช่นกัน
  • ระยะยาว: ต้องการเงินทุนจำนวนมากเพราะต้องถือครองในช่วงเวลาที่นาน การเทรดระยะยาว มักไม่ใช้ Margin แต่เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานรอคอยจังหวะที่เหมาะสม

ความเสี่ยง

  • ระยะสั้น : มีความเสี่ยงสูงจากการผันผวนของราคาตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์ที่ใช้การเทรดระยะสั้นต้องตัดสินใจรวดเร็วจึงมีความเสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาด
  • ระยะยาว : มีความเสี่ยงต่ำกว่าระยะสั้นจากการผันผวนของราคาตลาด เพราะการเทรดระยะยาวมีการเปลี่ยนแปลงราคาค่อนข้างช้า รูปแบบการซื้อขายและงเนทุน ถูกวางแผนให้สามารถรองรับความผันผวนแบบสั้นๆ ได้ จึงมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า

อธิบายการเทรด Forex แบบระยะยาวเปรียบเทียบกับระยะสั้น

อธิบายการเทรด Forex แบบระยะยาว

จากวิดีโอ Long Term VS Short Term Forex Trading (เริ่มโฟกัสนาทีที่ 0:47 ) เทรดเดอร์รายหนึ่งกำลังอธิบายความแตกต่างของการเทรด Forex ระยะสั้นและระยาว โดยเริ่มจากการพูดถึงกลยุทธ์เทรดแบระยะสั้น จะเป็น Day Trading แต่ระยะยาวจะเป็นแบบ Position อีกทั้งระยะยาวและระยะสั้นมีมุมมองของ Time Frame ต่างกัน เขาระบุว่าเทรดระยะสั้นจะเน้นใช้ Time Frame แบบ 1–15 นาที อย่างมากไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ระยะยาว มอง Time Frame ตั้ง 4 ชั่วโมงขึ้นไป

เทรดเดอร์รายนี้มีความคิดเห็นที่ว่าการเทรดระยะสั้นนั้นมีความยากและตึงเครียดมากกว่าเทรดระยะยาว แต่สุดท้ายเทรดเดอร์รายนี้ก็เน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญของการเทรดไม่ว่าจะระยะไหนคือการบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม

ตารางเปรียบเทียบภาพรวมของการเทรด Forex ระยะสั้น vs ระยะยาว

ระยะสั้น ระยะยาว
กรอบเวลาการถือครอง วินาที นาที ชั่วโมง หรือวัน สัปดาห์ หลายเดือน หรือหลายปี
กลยุทธ์การเทรด เน้นวิเคราะห์ทางเทคนิค ใช้ตัวชี้วัด

อินดิเคเตอร์ และกราฟราคา

เน้นวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน มองแนวโน้มเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน และปัจจัยอื่นๆ
ความผันผวนของราคา สูง โอกาสทำกำไรเร็ว แต่ความเสี่ยงสูง ต่ำ โอกาสทำกำไรช้า แต่ความเสี่ยงต่ำ
ระยะเวลาติดตามตลาด ติดตามอย่างต่อเนื่อง ตัดสินใจรวดเร็ว ติดตามเป็นระยะๆ

วิเคราะห์แนวโน้มในภาพรวม

ทักษะที่จำเป็น วินัย อดทน ตัดสินใจรวดเร็ว รับมือกับความกดดัน อดทน ใจเย็น วิเคราะห์ภาพรวม จากปัจจัยพื้นฐาน
เงินทุน สามารถใช้จำนวนน้อย

เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่

ต้องการใช้จำนวนมากกว่า

เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์

ผลตอบแทน โอกาสทำกำไรเร็ว แต่ผลตอบแทนโดยรวมอาจไม่สูง โอกาสทำกำไรช้า แต่ผลตอบแทนโดยรวมอาจสูงกว่า
ความเหมาะสม นักเทรดที่ต้องการผลตอบแทนเร็ว รับมือกับความเสี่ยงได้ดี มีเวลาติดตามตลาด นักลงทุนที่มีเวลา อดทน วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน รับความเสี่ยงต่ำ
ตัวอย่างกลยุทธ์ Scalping, Day trading, Swing trading Position trading, Trend trading
ความเสี่ยง เกิดจากความผันผวนของราคา

และการตัดสินใจผิดพลาด

เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน มูลค่าเงินเปลี่ยนแปลง
ข้อดี – โอกาสทำกำไรเร็ว

– เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นทำกำไรต่อวัน

– ใช้เงินทุนน้อย

– ฝึกวินัย อดทน ตัดสินใจรวดเร็ว

– ความเสี่ยงต่ำ

– ผลตอบแทนโดยรวมอาจสูงกว่า

– เหมาะกับนักลงทุนที่มีเวลา

– วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจ มองภาพรวม

ข้อเสีย – ความเสี่ยงสูง

– ต้องติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง

– ตัดสินใจรวดเร็ว รับมือกับความกดดัน

– ผลตอบแทนโดยรวมอาจไม่สูง

– โอกาสทำกำไรช้า

– ต้องการเงินทุนมากกว่า

– ศึกษาและตัดสินจากปัจจัยพื้นฐาน

ใช้เวลานาน

ตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่างของการเทรด ระยะสั้น vs ระยะยาว

สรุป

จากข้อมูลด้านบนที่ได้กล่าวมานั้นสามารถสรุปได้ว่า การเทรด Forex แบบระยะสั้นและแบบระยะยาวนั้น มีความแตกต่างกันมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกลยุทธ์ที่ใช้เทรด, มุมมองต่อตลาดForex, ระยะเวลาในการติดตาม, จำนวนเงินทุนที่เหมาะสม, การออกแบบระบบการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการเทรดระยะยาวหรือระยะยาว ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป สิ่งสำคัญคือเทรดเดอร์ต้องเข้าใจในความแตกต่าง และค้นหาสิ่งที่ใช่ เทรดแล้วรู้สึกสบายใจมากที่สุดครับ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *