แนะนำการเทรด Forex ด้วยเลเวอเรจ ต่ำ ปานกลาง และ สูง

เลเวอเรจคืออะไร

เลเวอเรจเปรียบเสมือนเงินทุนเสริมที่โบรกเกอร์ Forex มอบให้เทรดเดอร์ เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้และบริหารควบคุมเงินทุนจำนวนมหาศาลจากเงินทุนจริงที่อาจจะมีจำนวนน้อยกว่า โดยเลเวอเรจจะใช้งานโดยผ่านการเทรดแบบมาร์จิ้น ซึ่งรูปแบบที่เทรดเดอร์มักจะเห็นเลเวอเรจคือในรูปแบบอัตราส่วน เช่น 1:100 , 1:500 หรือ 1:2000 เป็นต้น

ตัวอย่างการทำงานของเลเวอเรจ

สมมติว่า เทรดเดอร์ต้องการซื้อ-ขายคู่เงิน GBP/USD มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ โดยที่มีเงินทุนเพียง 20,000 ดอลลาร์ โบรกเกอร์ใดๆ ที่เสนอเลเวอเรจ 1:100 จะอนุญาตให้นักเทรดควบคุมเงิน 2 ล้านดอลลาร์ จากเงินทุนจริงเพียง 20,000 ดอลลาร์

หาก GBP/USD เคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ เทรดเดอร์จะได้กำไรทวีคูณเงินทุนจริงตามอัตราส่วนของเลเวอเรจที่เลือกใช้ แต่หากราคาเคลื่อนไหวในทิศตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ก็จะทำให้ขาดทุนตามอัตราส่วนเช่นกัน

ตัวอย่างการทำงานของ Leverage

ปล. ในรูปภาพตัวอย่างใช้ขนาดล็อต 1 Lot ในการคำนวน

เลเวอเรจต่ำ (Low Leverage)

  • เลเวอเรจต่ำ คือ อัตราส่วนเลเวอเรจตั้งแต่ 1:10 -1:50 โดยประมาณ
  • เลเวอเรจต่ำจะจำกัดจำนวนเงินทุนที่เทรดเดอร์สามารถสูญเสียต่อการเทรดแต่ละครั้ง ช่วยให้ควบคุมความเสี่ยงได้ดี
  • เลอเวอเรจต่ำจึงเหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ ที่ยังไม่มีทักษะการเทรดมากพอ เน้นความปลอดภัยในการเทรด
  • การทำกำไรน้อย แต่ก็มีโอกาสขาดทุนน้อยเช่นกัน

เลเวอเรจปานกลาง (Medium Leverage)

  • เลเวอเรจปานกลาง คือ อัตราส่วนตั้งแต่ 1:50 – 1:100 โดยประมาณ
  • เลเวอเรจปานกลางช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมเงินทุนจำนวนมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการทำกำไรมากขึ้นเช่นกัน
  • เลเวอเรจปานกลางสามารถปรับใช้กับกลยุทธ์การเทรดได้หลากหลาย ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และกลยุทธ์แบบผสมผสาน
  • เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และมีความยืดหยุ่นในการเทรด

เลเวอเรจสูง (High Leverage)

  • เลเวอเรจสูง คืออัตราส่วนตั้งแต่ 1:200 ขึ้นไป โดยประมาณ
  • เลเวอเรจสูงจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมเงินทุนจำนวนมากและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่สกุลเงินเพียงเล็กน้อย
  • เลเวอเรจสูงจึงเหมาะกับการเทรดระยะสั้น เก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว
  • การเทรดด้วยเลเวอเรจสูงจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ และทักษะการวิเคราะห์ตลาดอย่างสูง เพราะเสี่ยงต่อการขาดทุนจำนวนมหาศาลได้ด้วยเช่นกัน

วิดีโออธิบาย Leverage อย่างง่าย

จากรูปภาพเป็นวีดีโอ Forex Leverage for Beginners Explained การอธิบายเจาะลึก Leverage การคำนวณและการใช้งานซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับ การเทรดโดยใช้ Leverage ความเกี่ยวข้องกับ Lot sizes และการเคลื่อนที่ของราคาในตลาด Forex เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้น โดยเทรดเดอร์ควรโฟกัสตั้งแต่นาทีที่ 0:50 เป็นต้นไป

ปัจจัยสำคัญในการเลือกเลเวอเรจ

  • ประสบการณ์และทักษะการเทรด
  • เทรดเดอร์มือใหม่: เลือกเลเวอเรจต่ำ เน้นการเรียนรู้ ฝึกฝนกลยุทธ์ บริหารความเสี่ยง
  • เทรดเดอร์ประสบการณ์ปานกลาง: เลือกเลเวอเรจปานกลาง เพิ่มโอกาส แต่ต้องมีวินัย บริหารความเสี่ยง
  • เทรดเดอร์ที่เชี่ยวชาญ: เลือกเลเวอเรจสูง ผลกำไรมหาศาลแต่ต้องมีทักษะ วิเคราะห์ ตัดสินใจ รวดเร็ว
  • นิสัยการรับความเสี่ยง
  • ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ: เลือกเลเวอเรจต่ำ เน้นความปลอดภัย
  • ยอมรับความเสี่ยงปานกลาง: เลือกเลเวอเรจปานกลาง มองหาโอกาสควบคู่ความเสี่ยง
  • ยอมรับความเสี่ยงสูง: เลือกเลเวอเรจสูง ผลตอบแทนสูงแต่ต้องพร้อมรับมือความสูญเสีย
  • กลยุทธ์การเทรด
  • เทรดระยะยาว: เลือกเลเวอเรจต่ำ เน้นความมั่นคง ปลอดภัย
  • เทรดระยะสั้น: เลือกเลเวอเรจปานกลาง เน้นโอกาสทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคา
  • เทรดแบบเก็งกำไร: เลือกเลเวอเรจสูง เน้นซื้อ-ขายในเวลาที่รวดเร็ว
  • สภาพตลาด
  • ตลาดผันผวนสูง: เลือกเลเวอเรจต่ำ เน้นความปลอดภัย
  • ตลาดผันผวนต่ำ: เลือกเลเวอเรจปานกลางเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร
  • ตลาดมีแนวโน้มชัดเจน: เลือกเลเวอเรจสูง เพื่อทำผลกำไรแต่ต้องวิเคราะห์แม่นยำ

ปัจจัยการเลือกใช้เลเวอเรจ

กลยุทธ์การเทรด Forex เลเวอเรจต่ำ

  • กลยุทธ์การเทรด Forex เลเวอเรจต่ำ เหมาะสำหรับนักเทรดที่เน้นความมั่นคง ปลอดภัย เน้นการเทรดระยะยาว
  • เน้นรอจังหวะการเข้าซื้อขายที่เหมาะสม และควบคุมความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด
  • ตัวอย่างกลยุทธ์สำหรับเลเวอเรจต่ำ
  • เทรดแนวโน้ม (Trend Trading) วิเคราะห์ทิศทางแนวโน้มของคู่สกุลเงิน (ขาขึ้น ขาลง) รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคา breakout แนวต้าน หรือเข้าขายเมื่อราคา breakout แนวรับ
  • ข้อดี : ความเสี่ยงต่ำ โอกาสสูญเสียเงินทุนก้อนใหญ่มีน้อย
  • ข้อเสีย : ผลกำไรต่อการเทรดแต่ละครั้งอาจน้อย

กลยุทธ์การเทรด Forex เลเวอเรจปานกลาง

  • กลยุทธ์นี้ผสมผสานการวิเคราะห์ทั้งแบบพื้นฐานและแบบเทคนิค เทรดทั้งระยะสั้นและระยะยาว
  • เลเวอเรจนี้ เน้นศึกษาปัจจัยเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วิเคราะห์อุปสงค์อุปทานของคู่สกุลเงิน ผสมกับการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Indicators, Chart Patterns เป็นต้น
  • ตัวอย่างกลยุทธ์สำหรับเลเวอเรจปานกลาง
  • เทรดกรอบราคา (Price Range Trading) วิเคราะห์หาแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance)
    รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาเด้งจากแนวรับ หรือรอจังหวะเข้าขายเมื่อราคาแตะแนวต้าน
  • ข้อดี : โอกาสทำกำไรมากกว่ากลยุทธ์เลเวอเรจต่ำ เหมาะกับนักเทรดที่มีประสบการณ์
  • ข้อเสีย : ต้องติดตามข่าวสารของตลาด Forex อย่างสม่ำเสมอ และอาจสูญเสียเงินทุนมากหากไม่ควบคุมให้ดี

กลยุทธ์การเทรด Forex เลเวอเรจสูง

  • กลยุทธ์นี้เน้นการเทรดระยะสั้น อาศัยแรง Momentum ของราคาและตัดสินใจรวดเร็ว ทันสถานการณ์
  • เน้นใช้ Indicators, Chart Patterns เพื่อหาจุดเข้า-ออก ที่เหมาะสมในกรอบเวลาสั้น
  • ตัวอย่างกลยุทธ์:
  • เทรดเดย์เทรดดิ้ง (Day Trading) วิเคราะห์หาโอกาสเข้าซื้อหรือขายในวันเดียว เข้าซื้อเมื่อราคา breakout แนวต้าน หรือเข้าขายเมื่อราคา breakdown แนวรับ ปิดออร์เดอร์ก่อนสิ้นสุดวัน
  • ข้อดี : โอกาสทำกำไรมหาศาลในเวลาอันสั้น
  • ข้อเสีย : ความเสี่ยงสูงต่อสูญเสียเงินทุนเร็ว และใช้ความรู้ ประสบการณ์สูง

ข้อควรระวังการเทรด Forex ด้วยเลเวอเรจ

  • เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
  • เลเวอเรจขยายทั้งกำไรและขาดทุน หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ นักเทรดอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดในบัญชี
  • บัญชีอาจโดน Call Margin
  • เมื่อเงินทุนในบัญชีมีจำนวนน้อยกว่า “Margin Requirement” โบรกเกอร์จะทำการ “Call Margin”
    บัญชีเทรดจะถูก “Force Liquidation” ระบบจะทำการขายสถานะทั้งหมดอัตโนมัติ ซึ่งอาจทำให้สูญเสียเงินทุนทั้งหมด
  • อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การเทรดแบบเลเวอเรจจะต้องมีมาร์จิ้นมาเกี่ยวข้อง โดยมาร์จิ้นมีการทำงานและคำนวณที่แตกต่างออกไป ซึ่งเราสามารถเจาะลึกเรื่องนี้ได้ในบทความต่อไป
  • เกิดความเครียด กดดัน
  • การเทรด Forex ด้วยเลเวอเรจสูง เต็มไปด้วยความผันผวนและความเสี่ยงอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจ
    ก่อให้เกิดความเครียด กังวล และสูญเสียจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด
  • ต้องการวินัยและการควบคุมอารมณ์สูง
  • เลเวอเรจจะเป็นตัวทดสอบวินัยและการควบคุมอารมณ์ของนักเทรด ต้องมีวินัย ปฏิบัติตามแผนการเทรดอย่างเคร่งครัด ไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของเลเวอเรจแบบภาพรวม

เลเวอเรจต่ำ เลเวอเรจปานกลาง เลเวอเรจสูง
โอกาสทำกำไร ต่ำ ปานกลาง สูง
ความเสี่ยง ต่ำ ปานกลาง สูง
เหมาะกับ มือใหม่ นักเทรดที่เน้นความมั่นคง นักเทรดที่มีประสบการณ์ นักเทรดมืออาชีพ
กลยุทธ์ เทรดระยะยาว เน้นวิเคราะห์พื้นฐาน เทรดทั้งระยะสั้นและระยะยาว ผสมผสานกลยุทธ์เทคนิคและพื้นฐาน เทรดระยะสั้น อาศัย Momentum ของราคา
ตัวอย่างกลยุทธ์ เทรดแนวโน้ม (Trend Trading) เทรดกรอบราคา (Price Range Trading) เทรดเดย์เทรดดิ้ง (Day Trading)
ข้อดี ความเสี่ยงต่ำ โอกาสสูญเสียเงินทุนก้อนใหญ่มีน้อย มีโอกาสทำกำไรมากกว่ากลยุทธ์เลเวอเรจต่ำ โอกาสทำกำไรมหาศาลในเวลาอันสั้น
ข้อจำกัด ผลกำไรต่อการเทรดแต่ละครั้งอาจน้อย ใช้เวลานานกว่ากลยุทธ์อื่น ต้องการการติดตามตลาดอย่างสม่ำเสมอ อาจสูญเสียมากกว่ากลยุทธ์เลเวอเรจต่ำ หากวิเคราะห์ผิดพลาด ความเสี่ยงสูง สูญเสียเงินทุนเร็ว ต้องการความเครียดสูง ติดตามตลาดตลอดเวลา ไม่เหมาะกับมือใหม่

สรุป

เลเวอเรจเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex อย่างเปิดกว้าง แต่เลเวอเรจนั้นก็มีจำนวนหรืออัตราส่วนที่แตกต่างทั้ง ต่ำ ปานกลาง และสูง ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เทรดเดอร์ควรศึกษาข้อมูลและเลือกใช้เลเวอเรจที่เหมาะสมกับเงินทุนและทักษะของตัวเอง เช่น เงินทุนน้อยและยังไม่มีทักษะการเทรดที่ช่ำชองก็ควรเลือกใช้เลเวอเรจต่ำ และปรับใช้กับกลยุทธ์เทรดที่เน้นปลอดภัยในระยะยาว เป็นต้น