ทำไมการเทรด Forex ให้ได้กำไรทุกวันจึงเป็นไปได้ยาก
-
ตลาด Forex มีความผันผวนสูง
-
- ความหลากหลายของสกุลเงินที่อยู่ในตลาด Forex มีมากมายทั่วโลก การซื้อขายในแต่ละวันก็มีปริมาณที่มหาศาล จึงมีความผันผวนสูงกว่าสินทรัพย์ชนิดอื่นๆ
- มองในมุมกลับกัน ก็นับว่าเป็นโอกาสสำหรับการทำกำไรในแต่ละวันได้เช่นกัน แต่ไม่ใช่เทรดเดอร์ทุกคนที่จะสามารถทำได้
-
มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อราคา
-
- ราคาค่าเงินที่ซื้อขายกัยในตลาด Forex นั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อเปลี่ยนแปลงของราคาสกุลเงินนั้นๆ
- สภาวะเศรษฐกิจ: เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมักดึงดูดนักลงทุน ส่งผลให้ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น
- นโยบายการเงิน: ธนาคารกลางมีบทบาทสำคัญ ในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและสภาพคล่อง ซึ่งส่งผลต่อค่าเงิน
- เหตุการณ์ทางการเมือง: เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น สงครามหรือการเลือกตั้ง อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลต่อค่าเงิน
- มุมมองของเทรดเดอร์และนักลงทุน : เปรียบเสมือนอารมณ์ของตลาดการเงิน สะท้อนถึงทัศนคติโดยรวมของนักลงทุนที่มีต่อสกุลเงินนั้นๆ เป็นจิตวิทยาหมู่มากที่ขับเคลื่อนการซื้อขายและส่งผลต่อราคา
-
ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์
-
- การเทรด Forex เพื่อทำกำไรในทุกๆ วันนั้นไม่สามารถทำได้จากฝึกฝนในระยะเวลาอันสั้น
- แต่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ ทักษะและประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในตลาด Forex ซึ่งจากการเก็บข้อมูลโดยรวม เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่เริ่มเทรดทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง มักมีประสบการณ์ในวงการนี้อย่างน้อย 3ปี ขึ้นไป

กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะต่อการทำกำไรรายวัน
-
การเทรดระยะสั้น
- รูปแบบการเทรดนี้คือการเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายภายในเวลาอันสั้น อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ หรือแม้กระทั่งไม่ถึงวัน
- กลยุทธ์เทรดระยะสั้นยอดนิยม ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักใช้ทำกำไร ได้แก่
-
- Day Trading หรือ การเทรดรายวัน สามารถเทรดได้กับสินทรัพย์แทบทุกประเภท รูปแบบหลักคือ การปิดคำสั่งซื้อขายก่อนตลาดปิดในแต่ละวัน
- Scalping: คือ การซื้อขายหลายๆ ครั้ง ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งสามารถทำกำไรเล็กน้อยจากแต่ละครั้ง หรือ ทำกำไรได้มากมายขึ้นอยู่กับการใช้ขนาด Lot ในการเทรด
- Swing trading: คือรูปแบบการซื้อขายที่ถือครองตำแหน่งนานกว่า Day trading แต่สั้นกว่าการเทรดระยะยาว ซึ่งบางครั้งอาจจะทำกำไรในระยะ 2-3 วัน
-
การเทรดแบบใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค
- ตัวชี้วัดทางเทคนิค เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ ที่ใช้ข้อมูลราคาและปริมาณในอดีต เพื่อคาดการณ์ทิศทางหรือแนวโน้มของราคา
- ซึ่งในการเทรดทำกำไรระยะสั้นรายวันนั้นมีการใช้เครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคและรูปแบบเทคนิคหลายประเภท
- แนวรับแนวต้าน : คือช่วงราคาที่มีนัยยะสำคัญต่อการวิ่งของกราฟ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย แนวรับ เปรียบเสมือน พื้น ที่ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้ม เด้งกลับขึ้น เมื่อราคาลงมาถึงระดับนี้
- แนวต้าน เปรียบเสมือน เพดาน ที่ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้ม ถูกต้านทานไม่สามารถ ทะลุขึ้น ไปได้ ซึ่งทั้งสองมีการประเมินและวิเคราะห์จากราคาในอดีต
- Moving Average (MA) คือ ค่าเฉลี่ย ของราคาหลักทรัพย์ ในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ร่วมกับเครื่องอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
- ออสซิลเลเตอร์(Oscillators) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ ที่ใช้บ่งบอก โมเมนตัมและ แรง ของการเคลื่อนไหวราคา
-
การลงทุนแบบ copy trade
- การ Copy Trade เป็นช่องทางของการลงทุนใน Forex ที่ออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มีทักษะและประสบการณ์มากพอ
- โดยเทรดเดอร์เหล่านั้นสามารถคัดลอกคำสั่งการซื้อขายของเทรดเดอร์อื่นๆ ที่มีความชำนาญแล้ว ซึ่งเงื่อนไขในการแบ่งกำไร และค่าธรรมเนียมก็ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์เป็นผู้กำหนดไว้
- ส่วนการทำกำไรในทุกๆ วัน ขึ้นอยู่กับความสามารถของเทรดเดอร์ที่เราไปคัดลอกกลยุทธ์ด้วย หากคัดลอกคนที่เทรดเก่งก็มีโอกาศทำกำไรได้ทุกวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่จะหาคัดลอกเทรดเดอร์เก่งๆ แบบนั้น

-
วิธีจัดการความเสี่ยง
การเทรดเพื่อทำกำไรในทุกๆ วัน หนึ่งสิ่งที่เทรดเดอร์ควรตระหนักไว้คือ การจัดการความเสี่ยง ในการออกออเดอร์แต่ละครั้ง เทรดเดอร์ควรมีแผนการรองรับและคำนวณความเสี่ยงแบบภาพกว้างๆ ไว้แล้ว ซึ่งวิธีการจัดการความเสี่ยงมีหลากหลายวิธีที่สามารถใช้ได้ทุกๆ สถานการณ์ ดังนี้
-
การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss)
- คือการกำหนดราคาจุดที่เราจะปิดออเดอร์แบบขาดทุน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไปในอนาคต
- การเทรดทำกำไรรายวัน จำเป็นจะต้องมีการตั้ง Stop Loss ไว้เสมอ ในทุกๆ ออเดอร์ที่มีการซื้อขาย
- การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) นั้น คำนวณและวิเคราะห์มาจาก ประสบการณ์และปัจจัยทางเทคนิคหลายๆ อย่าง
-
การจำกัดขนาดการเทรด
- Position Sizing หรือ การกำหนดขนาดการเทรด คือ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง ที่มุ่งควบคุม จำนวนเงิน ที่ใช้ในการเทรด แต่ละครั้ง
- วิธีการจำกัดขนาดการเทรดประกอบไปด้วย
-
-
- การตั้งระยะจุด Stop Loss เช่นที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ จะสัมพันธ์กับการกำหนดขนาดของการเทรด
- การกำหนดขนาดสัญญาซื้อขาย หรือที่เรียกว่าขนาด Lot เช่น จำนวนเงินทุน 500 USD ควรใช้ขนาด Lot ในการเทรด ไม่เกิน 0.05 lot
-
-
- การเลือกใช้ขนาด Leverage คือการเลือกใช้ฟังก์ชั่นในการขยายเงินทุน ซึ่งเทรดเดอร์จำเป็นต้องเข้าใจในเลือกใช้ขนาดของเลเวอเรจ เพราะจะส่งผลต่อการเทรด
-
การกระจายความเสี่ยง
- การกระจายความเสี่ยง ในการเทรด Forex หมายถึง การกระจายเงินทุนของเทรดเดอร์ไปยัง คู่สกุลเงิน , กลยุทธ์ และเทคนิคการเทรด ที่หลากหลาย
- ตัวอย่างเช่น
- กระจายคู่สกุลเงิน: เทรดคู่สกุลเงิน หลักๆ (EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD) คู่สกุลเงินรอง และ คู่สกุลเงิน Exotic
- กระจายกลยุทธ์: ผสมผสานกลยุทธ์ การเทรด ที่หลากหลาย เช่น เทรนด์ โมเมนตัม และ สเกลปิ้ง
- กระจายเทคนิค: ใช้ ตัวชี้วัด และ เครื่องมือวิเคราะห์ ที่หลากหลาย
-
การใช้เครื่องมือ hedging
- Hedging หรือ การป้องกันความเสี่ยง ในตลาด Forex เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เปิดสถานะตรงกันข้าม เพื่อชดเชยหรือลดความเสี่ยงจากสถานะที่มีอยู่
- Partially Hedge: เปิดสถานะตรงกันข้าม เพียงบางส่วน ของสถานะที่มีอยู่
- Fully Hedge: เปิดสถานะตรงกันข้าม ขนาดเท่ากับ สถานะที่มีอยู่ เพื่อ ปิด สถานะเดิม
วีดีโอที่เกี่ยวกับการทำกำไรรายวันของ Forex
กดที่รูปเพื่อไปยังลิ้งค์วีดีโอ
คลิปวีดีโอ สำหรับการเทรดทำกำไรต่อวัน โดยเป็นการแชร์เทคนิคจากเทรดเดอร์ต่างประเทศ ที่ทำกำไร 100 USD ต่อวัน ซึ่งเทรดเดอร์สามารถเข้าไปเรียนรู้แนวคิดและเทคนิคได้ จาก : $100 a Day Trading Forex – YouTube (โฟกัสช่วงเวลาที่ 1:13 เป็นต้นไป)
วินัยและจิตวิทยาในการเทรดทำกำไร
เทคนิคการเทรดหรือการจัดการความเสี่ยงที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านั้น จะไม่สามารถช่วยหรือให้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ หากเทรดเดอร์นั้นยังขาดทัศนคติที่ถูกต้องต่อการเทรด Forex ซึ่งการมีทัศนคติและมุมมองต่อการเทรดที่ถูกต้องและเข้าใจสถานการณ์ จะเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการทำกำไรในแต่ละวันได้
-
พัฒนาทักษะ
- การเทรดและฝึกฝนทักษะการเทรดไปในทุกๆ วัน จะช่วยให้เทรดเดอร์มีความเข้าใจต่อพฤติกรรมของตลาด Forex ได้อย่างดี
- รวมไปถึงการใช้เครื่องมือต่างๆ ในการวิเคราะห์ราคา ซึ่งในที่สุดเทรดเดอร์คนหนึ่งอาจจะชำนาญในคู่สกุลเงินหนึ่งโดยปริยายและสามารถเทรดทำกำไรเฉพาะคู่เงินนั้นในระยะยาว
-
ฝึกฝนจากบัญชีทดลอง
- การใช้ฟังก์ชั่นบัญชีทดลอง หรือ บัญชี Demo เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่ได้สัมผัสกับตลาดและการเทรดแบบของจริง
- การเทรดจากบัญชีทดลองเปรียบเสมือนสนามซ้อมก่อนเข้าสู่สนามจริง ที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดและทำความเข้าใจกับเครื่องมือการเทรด
- บัญชีทดลองยังสามารถหาจุดบกพร่องในการเทรดของเราได้ด้วย เพื่อทำการแก้ไขปรับปรุงต่อไปในอนาคต
-
การควบคุมอารมณ์
- การเข้าใจในอารมณ์ของการเทรดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันจะแยกแยะได้ว่าเทรดเดอร์นั้นเทรด Forex เพื่อการทำกำไรในระยะยาวหรือเทรดแค่เพื่อการพนัน
- การที่เทรดเดอร์ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ในการเทรดได้ มักจะส่งผลเสียต่อผลลัพธ์ของการเทรด เทรดเดอร์จะรู้สึกถึงการอยากเอาชนะ การอยากได้เงินคืนในระยะเวลาอันสั้น
- ภาวะนี้จะส่งผลต่อความโลภของตัวเทรดเดอร์เอง และจะทำให้สมาธิในการเทรดนั้นไม่นิ่ง
- ดังนั้นแม้ว่าผลลัพธ์ของการเทรดนั้นจะเป็นอย่างไร เทรดเดอร์ควรตัดอารมณ์ออกจากการเทรด และฝึกฝนเทรดตามแผนและกลยุทธ์ที่ได้วางเอาไว้ตั้งแต่แรก
-
เรียนรู้จากประสบการณ์
- ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นจะไม่มีความหมายหากเทรดเดอร์ไม่ได้ตระหนักถึง ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ
- ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เทรดได้กำไรหรือขาดทุนก็ตาม จะมีความรู้และประสบการณ์ใหม่ที่เทรดเดอร์ได้เรียนรู้อยู่เสมอ
สรุป
การเทรด Forex เพื่อให้ได้กำไรในแต่ละวันนั้นทำได้จริงหรือไม่? สามารถสรุปได้ว่าในทางทฤษฎีนั้นสามารถเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัติต้องยอมรับเช่นกันว่าเป็นไปได้ยากมากๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเทรดเดอร์เองว่ามีมุมมองต่อการเทรด Forex อย่างไร เพราะปัจจัยทางเทคนิคในการเทรดทำกำไรในแต่ละวันนั้นมีหลายองค์ประกอบที่เทรดเดอร์สามารถหยิบมาใช้ในการเทรดได้จริงแต่ก็ต้องมองถึงปัจจัยทางความคิดของเทรดเดอร์ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันด้วย
บทความแนะนำ
เทคนิคการใช้ copy trade สำหรับนักลงทุน Forex ที่ไม่ชอบวิเคราะห์เอง
วิเคราะห์กราฟแท่งเทียนคืออะไร สำคัญกับการลงทุน Forex ยังไง
10 รูปแบบเทคนิคการเทรดยอดนิยม
จัดการความเสี่ยง: ลงทุน Forex อย่างไรให้ปลอดภัย
ลงทุน Forex ต้องมีระบบของตัวเอง หาจากไหน?
การลงทุน Forex ดียังไง? เปรียบเทียบข้อแตกต่างและข้อได้เปรียบในการเทรด
การใช้ EA ในการลงทุนเทรด Forex : เริ่มต้นยังไง? แบคเทสยังไง? ซื้อ EA ที่ไหน?
การเทรด Forex ในช่วงเวลาของการประกาศข่าวสำคัญ