การเคลื่อนไหวของตลาด Forex เป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ การเปลี่ยนแปลง นโยบายการเงิน จากธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าเงินของแต่ละประเทศ และส่งผลต่อตลาด Forex โดยภาพรวม
ผู้เล่นในตลาด Forex จำเป็นต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อคาดการณ์ทิศทางของตลาดและตัดสินใจลงทุน หัวข้อวันนี้อาจจะดูยากไปบ้าง แต่มีความสำคัญกับเทรดเดอร์ทุกคนในตลาดForex วันนี้ทีมงานสรุปมาให้อ่านง่ายๆ เข้าใจกันได้แน่นอนครับ
นโยบายการเงินคืออะไร
- นโยบายการเงินคือ เครื่องมือทางเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศใช้ควบคุมดูแลเศรษฐกิจ
- โดยมีเป้าหมายคือ การรักษาเสถียรภาพของราคา (ลดเงินเฟ้อ) และการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในระยะยาว
- โดยทั่วไปแล้ว นโยบายการเงินเปรียบเสมือนตัวควบคุมปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลต่อทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริโภค ภาคเอกชน และภาคธนาคาร
ประเภทของนโยบายการเงิน
- นโยบายการเงินแบบหดตัว หรือ แบบเข้มงวด
- มุ่งเน้นการลดปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจใช้ควบคู่กับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- เป้าหมายคือการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้การกู้ยืมเงินยากและมีราคาดอกเบี้ยแพง ส่งผลให้ภาคประชาชนและภาคธุรกิจลดการใช้จ่ายและการลงทุน
- นโยบายการเงินแบบขยายตัว
- มุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหรือลดอัตราดอกเบี้ย
- เป้าหมายคือกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต
- โดยนโยบายนี้มีแนวทางคือให้ต้นทุน(รวมถึงดอกเบี้ย)การกู้ยืมที่ถูกลง จะช่วยส่งเสริมให้ภาคประชาชนและภาคธุรกิจมีการใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น
ปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่มีผลต่อตลาด Forex
1. อัตราดอกเบี้ย
- อัตราดอกเบี้ย คือเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางใช้ควบคุมทิศทางเศรษฐกิจและค่าเงิน
- การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลต่อ พฤติกรรมของนักลงทุน
- การขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ดึงดูดเงินทุนต่างประเทศ ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
- นักลงทุนต่างชาติจะนำเงินมาลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
- สภาพคล่องลดลง ช่วยควบคุมเงินเฟ้อ
- การลดอัตราดอกเบี้ย
- กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เงินทุนไหลออก ค่าเงินอ่อนค่าลง
- กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค เศรษฐกิจเติบโตเร็วขึ้น
- เงินในระบบเศรษฐกิจมี สภาพคล่อง มากขึ้นอาจจะส่งผลให้เกิด ภาวะเงินเฟ้อ
2. การแทรกแซงตลาด
- ธนาคารกลางจะควบคุมค่าเงินโดยตรง จากการ ซื้อหรือขาย สกุลเงินในตลาด
- จุดประสงค์เพื่อปรับอุปสงค์และอุปทาน ส่งผล ต่อค่าเงินของประเทศนั้นๆ
- การซื้อ/ขายสกุลเงิน ของธนาคารกลาง :
- ธนาคารกลางซื้อสกุลเงิน: เพิ่ม อุปสงค์ ของสกุลเงิน ค่าเงินนั้นจะแข็งค่าขึ้น
- ธนาคารกลางขายสกุลเงิน: เพิ่ม อุปทาน ของสกุลเงิน ค่าเงินนั้นจะอ่อนค่าลง
- การแทรกแซงด้วยวาจา:
- ธนาคารกลาง แถลงหรือส่งสัญญาณ เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน
- ส่งผลต่อความคาดหวังของนักลงทุน ทำให้กระตุ้นหรือกดดันค่าเงิน
3. การพิมพ์เงิน
- การพิมพ์เงิน คือการผ่อนคลายทางการเงินอย่างหนึ่ง เป็นเครื่องมือที่ธนาคารกลางใช้ เพิ่มปริมาณเงิน
ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ - โดยการ ซื้อพันธบัตร หรือ สินทรัพย์อื่นๆ จากภาคเอกชน
- เมื่อมีเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น อุปทาน ของสกุลเงินจะ เพิ่มขึ้น ค่าเงินของประเทศนั้นๆ จะอ่อนค่าลง
- เมื่อมีเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ผู้คนมีกำลังซื้อมากขึ้น ราคาสินค้าและบริการจะสูงขึ้น อาจเกิดภาวะเงินเฟ้อ
4. สถานการณ์เศรษฐกิจ
- เศรษฐกิจเติบโต
- ก็จะดึงดูดนักลงทุนนักลงทุนมีความมั่นใจเชื่อมั่น คาดหวัง ผลตอบแทน ที่ดีนำเงิน มาลงทุนในประเทศ
- และนักลงทุนจะซื้อสกุลเงินของประเทศนั้น ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น
- ปัจจัยชี้วัดเสรษฐกิจของประเทศ เช่น เช่น GDP อัตราการจ้างงาน
- เศรษฐกิจถดถอย
- เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว นักลงทุนมีความกังวล และถอนเงินออกจากประเทศ
- หรือ ขายสกุลเงินของประเทศนั้น ค่าเงินของประเทศนั้นอ่อนค่าลง
5. เหตุการณ์ทางการเมือง
- เหตุการณ์ทางการเมืองเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลต่อราคาในตลาด Forex และทำให้ค่าเงินผันผวน
- การเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งอาจเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ค่าเงินผันผวนสูง - การประท้วง ความวุ่นวายทางการเมือง ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ ค่าเงินอ่อนค่าลง
- สงคราม สร้างความเสี่ยงและผลกระทบต่อเศรษฐกิจแบบรุนแรง นักลงทุนเทขายสินทรัพย์จากความกังวล ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายกะทันหัน จะสร้างความไม่แน่นอนในเศรษกิจ ใส่งผลให้นักลงทุนเทขาย ค่าเงินผันผวน
6. นโยบายการเงินต่างประเทศ
- นโยบายการเงินต่างประเทศอาจจะยังไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อตลาด Forex เท่าปัจจัยอื่นๆ แต่ก็สามารถสร้างผลกระทบต่อค่าเงินได้เช่นกัน
- โดยทั่วไปแล้วถือว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่นักลงทุนใช้ติดตามและวิเคราะห์ราคาค่าเงินด้วยเช่นกัน
- ตัวอย่างนโยบายการเงินต่างประเทศ เรื่องดอกเบี้ย
- ประเทศที่มี อัตราดอกเบี้ยสูง ดึงดูด เงินทุนจากต่างประเทศ ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
- ประเทศที่มี อัตราดอกเบี้ยต่ำ เงินทุน ไหลออกนอกประเทศ ค่าเงินอ่อนค่าลง
- ตัวอย่างนโยบายการเงินต่างประเทศ แบบผ่อนคลาย
- ประเทศต่างๆ ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจโลก
- นักลงทุนเทขายสกุลเงินปลอดภัย หันมาซื้อสินทรัพย์หลากหลายชนิด ค่าเงินอ่อนค่าลง
7. สถิติเศรษฐกิจ
- สถิติทางเศรษฐกิจคือสิ่งนักลงทุนใช้ในการประเมินต่อการเลือกลงทุนในค่าเงินประเทศนั้นๆ
- ตัวอย่างสถิติตัวชี้วัดเศณษฐกิจ
- GDP (ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ)
- อัตราการว่างงาน
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
- ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขเหล่านี้มีผลกระทบต่อค่าเงิน
- ตัวเลขสถิติดี นักลงทุนมีมั่นใจและคาดหวังผลตอบแทนสูง จึงนำเงินมาลงทุน ค่าเงินแข็งค่า
- ตัวเลขสถิติแย่ จะเป็นเหมือนการตรงกันข้ามต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ค่าเงินอ่อนค่าลง
8. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- นักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นสูงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆมีแนวโน้มที่จะ เข้าซื้อสกุลเงิน
ส่งผลต่อค่าเงิน ของประเทศนั้น - ความเชื่อมั่นสูง: นักลงทุนเข้าซื้อ จากการมองเห็นสัญญาณต่างๆ ที่ดี ส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
- ความเชื่อมั่นต่ำ: นักลงทุนเทขาย จากการมองเห็นความเสี่ยงของการลงทุนต่อค่าเงิน ส่งผลให้ ค่าเงินอ่อนค่าลง
9. ปัจจัยทางจิตวิทยา
- ปัจจัยทางจิตวิทยาของนักลงทุนมีบทบาทสำคัญต่อพฤติกรรมในตลาด Forex
- การตัดสินใจซื้อขายของนักลงทุน ส่งผลต่อราคาในตลาด Forex ในระดับหนึ่ง
- อารมณ์นักลงทุน
- ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อขาย การวิเคราะห์ ตัดสินใจ กระทบต่อ การกระตุ้น/กดดัน ค่าเงิน
- ตัวอย่าง:นักลงทุนไม่มั่นใจ เทขาย ทำค่าเงินอ่อนค่า / นักลงทุนมั่นใจ ซื้อค่าเงินทำให้ ค่าเงินแข็งค่า
- การเก็งกำไร:
- นักลงทุนเก็งกำไรซื้อขายเยอะ กระตุ้นความผันผวนทำให้ค่าเงินแกว่งตัว
- ตัวอย่าง:นักลงทุนเก็งกำไรเงินเยน ส่งผลให้เงินเยน ผันผวน
วีดีโออธิบายการส่งผลกระทบต่อ Forex จากนโยบายการเงิน
จากคลิปจะเห็นได้ว่า ยูทูปเบอร์กำลังอ้างอิงตัวเลขเศรษฐกิจจากเว็บไซต์ Forex Factory พร้อมกับอธิบายการส่งผลกระทบต่อค่าเงิน ซึ่งในคลิปจะเกี่ยวกับสกุลเงิน EUR (ยูโร) และ USD (ดอลลาห์ สหรัฐ) โฟกัสตั้งแต่นาทีที่ 0:50 เป็นต้นไป จากข่าว Minimum Bid Rate และ ECB Press conference ซึ่งจะกระทบค่าเงินสกุล ยูโรอย่างมาก
ตารางสรุปภาพรวม
ปัจจัย | ผลกระทบต่อค่าเงิน | ตัวอย่าง |
---|---|---|
เศรษฐกิจ | เศรษฐกิจเติบโต: ดึงดูดนักลงทุน ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
เศรษฐกิจถดถอย: เงินทุนไหลออก ค่าเงินอ่อนค่าลง |
GDP อัตราการจ้างงาน ดัชนีการผลิต |
การเมือง | เหตุการณ์ทางการเมือง: กระตุ้นความผันผวน ค่าเงินแกว่งตัว
ความไม่แน่นอนทางการเมือง: นักลงทุนเทขาย ค่าเงินอ่อนค่าลง |
การเลือกตั้ง การประท้วง สงคราม |
นโยบายการเงินต่างประเทศ | เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย: ดึงดูด/กระจายเงินทุน ส่งผลต่อค่าเงิน
นโยบายผ่อนคลาย: กระตุ้นเศรษฐกิจโลก ค่าเงินอ่อนค่าลง |
อัตราดอกเบี้ย นโยบาย QE |
สถิติเศรษฐกิจ | ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ: บ่งบอกทิศทางเศรษฐกิจ กระตุ้น/กดดันค่าเงิน
ข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง: ดึงดูดนักลงทุน ค่าเงินแข็งค่าขึ้น |
GDP อัตราการว่างงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) |
ความเชื่อมั่นของนักลงทุน | ความเชื่อมั่นสูง: นักลงทุนเข้าซื้อ ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
ความเชื่อมั่นต่ำ: นักลงทุนเทขาย ค่าเงินอ่อนค่าลง |
ข่าวสาร เศรษฐกิจ นโยบายการเงิน |
ปัจจัยทางจิตวิทยา | อารมณ์นักลงทุน: ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อขาย กระตุ้น/กดดันค่าเงิน
การเก็งกำไร: เพิ่มความผันผวน ค่าเงินแกว่งตัว |
อารมณ์ ความกลัว ความโลภ |
สรุป
จากข้อมูลข้างต้นนั้นจะเห็นได้ว่า นโยบายการเงินนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว จะส่งผลต่อตลาด Forex ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยความสำคัญของนโยบายการเงินต่างๆ เช่น หากนโยบายเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ภาพรวมของเศรษฐกิจ ก็จะส่งผลรุนแรงต่อค่าเงินในตลาด Forex หากเป็นปัจจัยทางอ้อมอย่างภัยพิบัติธรรมชาติหรือปัจจัยทางจิตวิทยาก็จะส่งผลรองลงมา ต่อตลาด Forex ดังนั้น การศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้ามเพราะสิ่งเหล่านี้จะสามารถกำหนดแนวโน้ม รวมไปถึงการทำกำไรจากปัจจัยเหล่านี้ได้อีกด้วย
บทความแนะนำ
เทคนิคการใช้ copy trade สำหรับนักลงทุน Forex ที่ไม่ชอบวิเคราะห์เอง
วิเคราะห์กราฟแท่งเทียนคืออะไร สำคัญกับการลงทุน Forex ยังไง
10 รูปแบบเทคนิคการเทรดยอดนิยม
จัดการความเสี่ยง: ลงทุน Forex อย่างไรให้ปลอดภัย
ลงทุน Forex ต้องมีระบบของตัวเอง หาจากไหน?
การลงทุน Forex ดียังไง? เปรียบเทียบข้อแตกต่างและข้อได้เปรียบในการเทรด
การใช้ EA ในการลงทุนเทรด Forex : เริ่มต้นยังไง? แบคเทสยังไง? ซื้อ EA ที่ไหน?
การเทรด Forex ในช่วงเวลาของการประกาศข่าวสำคัญ