ประโยชน์ของการรู้คำศัพท์ Forex
- การเริ่มต้นเทรด Forex โดยเรียนรู้คำศัพท์ที่จำเป็นจะต้องเข้าใจ สามารถช่วยให้เทรดเดอร์เรียนรู้การเทรด Forex แบบภาพรวมได้ไวขึ้น กว่าคนที่ไม่รู้คำศัพท์
- ความเข้าใจในการสื่อสารกับเทรดเดอร์คนอื่นๆ จะช่วยให้สื่อสารกับพวกเขาได้อย่างราบรื่น เข้าใจข้อมูล ข่าวสาร และกลยุทธ์การเทรดที่พวกเขาแบ่งปัน นำไปพัฒนาฝีมือการเทรดของตัวเอง
- เครื่องมือวิเคราะห์และแพลตฟอร์มเทรด Forex มักมีคำศัพท์เฉพาะทางปรากฏอยู่ การรู้คำศัพท์เหล่านี้ จะช่วยให้ใช้งานเครื่องมือและแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- โดยคำศัพท์ Forex ก็สามารถแบ่งย่อยออกเป็นหมวดหมู่ได้หลายหมวดหมู่ ซึ่งจำแนกตามประเภทย่อยของ Forex ได้ดังนี้
คู่เงินหลัก (Major Pairs)
- คู่เงินที่จับคู่ระหว่างดอลลาร์สหรัฐฯ กับสกุลเงินหลักอื่นๆ 7 สกุล
- มีการซื้อขายหนาแน่นและสภาพคล่องสูง มีความผันผวนสูง โอกาสทำกำไรเยอะ
- ตัวอย่างคู่เงินหลัก:
-
- EUR/USD
-
- USD/JPY
-
- GBP/USD
-
- USD/CHF
-
- AUD/USD
-
- USD/CAD
-
- NZD/USD
- NZD/USD
- คู่เงินรอง (Minor Pairs)
-
- คู่เงินหลักจับคู่กันเอง โดยไม่ต้องพึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ
-
- มีสภาพคล่องดี โอกาสทำกำไรเยอะ
-
- ตัวอย่างคู่เงินรองยอดนิยม:
- EUR/JPY
- ตัวอย่างคู่เงินรองยอดนิยม:
-
-
- GBP/JPY
-
-
-
- EUR/GBP
-
-
-
- AUD/JPY
-
-
-
- AUD/NZD
-
-
-
- GBP/CHF
-
- คู่เงิน Exotic
-
- คู่เงิน USD กับสกุลเงินประเทศเศรษฐกิจกำลังเติบโต
-
- โอกาสทำกำไรสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน
-
- ตัวอย่างคู่เงินเกิดใหม่:
-
-
- USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี)
- USD/MXN (ดอลลาร์สหรัฐ/เปโซเม็กซิโก)
- USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ/แรนด์แอฟริกาใต้)
- USD/BRL (ดอลลาร์สหรัฐ/เรียลบราซิล)
-
- Bid Price
- Bid Price คือ ราคาที่เทรดเดอร์ ยินดีจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์นั้นๆ (ในที่นี้คือสกุลเงิน)
- เปรียบเสมือน “ราคาขาย” ที่เทรดเดอร์ตกลงที่จะจ่าย
- ตัวอย่าง EUR/USD 1.1356 หมายถึง
- คุณจ่าย USD 1.1356 ซื้อ 1 ยูโร กล่าวคือ 1 ยูโร มีค่าเท่ากับ 1.1356 USD ณ เวลานั้น
- Ask Price
- Ask Price คือ ราคาที่ผู้ขาย ตั้งไว้ ขายสินทรัพย์
- เปรียบเสมือน “ราคาเสนอ” ของผู้ขาย
- ในตัวอย่าง EUR/USD 1.1357 หมายถึง
- ผู้ขาย เสนอขาย 1 ยูโร ในราคา USD 1.1357 คุณต้อง จ่าย USD 1.1357 ซื้อ 1 ยูโร
- Spread
-
- คือ ช่องว่างระหว่างราคา Bid และ Ask เปรียบเสมือน ค่าธรรมเนียม ของโบรกเกอร์
- ใน Forex Bid จะ ต่ำกว่า Ask เสมอ
- Spread กว้าง = กำไร/ขาดทุนน้อย
- Spread แคบ = กำไร/ขาดทุนมาก
- Pip
-
- คือ หน่วยวัดการเปลี่ยนแปลง ของราคาใน Forex
- 1 Pip คือ การเปลี่ยนแปลง หลักที่ 4 ของราคา
- ตัวอย่าง: EUR/USD เปลี่ยนจาก 1.1234 ไปเป็น 1.1235 = เปลี่ยนแปลง 1 Pip
- Lot Size
-
- คือ หน่วยวัดขนาดสัญญา ซื้อขายในตลาด Forex
- 1 Lot เท่ากับ จำนวนหน่วย ของสินทรัพย์ที่กำหนดไว้ เช่น
- Forex: 100,000 หน่วยสกุลเงิน
- ดัชนีหุ้น: 1 หน่วยสัญญา เป็นต้น

คำศัพท์ Forex เกี่ยวกับการซื้อขาย:
- Long Position
- คือ กลยุทธ์การซื้อสินค้าคาดหวังราคาจะ “เพิ่มสูงขึ้น” เทรดเดอร์จะ “ซื้อ” สินค้าก่อน รอจังหวะราคาขึ้นสูงแล้ว “ขาย” ทำกำไรจากส่วนต่างราคา
- Short Position
- คือกลยุทธ์การลงทุนที่ ขายสินทรัพย์ก่อน โดยคาดหวังว่าราคาจะ ลดลง เมื่อราคา ลดลงจริง เทรดเดอร์จะ ซื้อคืน ในราคาที่ต่ำกว่า
- Market Order
- คือ คำสั่งซื้อหรือขาย ตามราคาตลาด ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
- Pending Order
- คือ คำสั่งซื้อ/ขายล่วงหน้า ตามเงื่อนไข ที่กำหนด
- ประเภทของ Pending Order
-
-
- Limit Order: ซื้อ/ขาย เมื่อราคา ถึง ระดับที่กำหนด
- Stop Order: ซื้อ/ขาย เมื่อราคา ทะลุ ระดับที่กำหนด
-
- Buy Limit
- คือ คำสั่งซื้อล่วงหน้า ในราคาที่ ต่ำกว่า ราคาตลาดปัจจุบัน
- Buy Stop
- คือ คำสั่งซื้อล่วงหน้า ในราคาที่ สูงกว่า ราคาตลาดปัจจุบัน
- Sell Limit
- คือ คำสั่งขายล่วงหน้า ในราคาที่ สูงกว่า ราคาตลาดปัจจุบัน
- Sell Stop
- คือ คำสั่งขายล่วงหน้า ในราคาที่ ต่ำกว่า ราคาตลาดปัจจุบัน
- Stop Loss Order
- คำสั่งที่ตั้งไว้สำหรับปิดการเทรดโดยอัตโนมัติในราคาที่เทรดเดอร์กำหนดเพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น กรณีนี้จะใช้เมื่อขาดทุน
- Take Profit Order
- คำสั่งที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อกำหนดออเดอร์นั้นให้ปิดลงเมื่อถึงระดับที่เทรดเดอร์กำหนด ซึ่งกรณีนี้จะใช้สำหรับการทำกำไร
- Margin
-
คือ เงินหลักประกัน ที่วางกับโบรกเกอร์ เพื่อ ซื้อขาย สกุลเงิน เกิน เงินทุนที่มี
- ตัวอย่าง มีเงิน 10,000 บาท ซื้อสกุลเงินหนึ่งด้วยจำนวน 100,000 บาท ด้วยมาร์จิ้น 10% ต้องวางมาร์จิ้น 10,000 บาท
-
- Leverage
- คือ การใช้เงินทุน น้อย แต่ ขยายผล กำไร (และขาดทุน) ได้มากขึ้น
- เปรียบเสมือนการ กู้ยืม เงินจากโบรกเกอร์เพื่อซื้อสินทรัพย์
- ตัวอย่าง: มีเงิน 10,000 บาท
ซื้อขายสกุลเงิน eur/usd 100,000 บาท ด้วย Leverage 10 เท่า
เท่ากับใช้เงิน 10,000 บาท ซื้อของมูลค่า 100,000 บาท

คำศัพท์ Forex เกี่ยวกับการวิเคราะห์
- Technical Analysis
- ศึกษารูปแบบราคา Forex เพื่อหาสาเหตุและเหตุผลเบื้องหลังรูปแบบราคานั้นๆ
- เป้าหมาย:
-
-
- อธิบายพฤติกรรมราคาในอดีต
- ประเมินทิศทางราคาในอนาคต
-
- Fundamental Analysis
- การประเมินมูลค่าและความเหมาะสมของสินทรัพย์ทางการเงิน ด้วยการตรวจสอบข้อมูลงบการเงินและตัวแปรเชิงคุณภาพ
- เพื่อทำนายความเป็นไปได้ในอนาคต โดยไม่ใช้ปัจจัย “ราคา” ในการวิเคราะห์
- ปัจจัยที่ใช้วิเคราะห์เช่น อัตราส่วนทางการเงิน กำไร เงินเฟ้อ
- Support and Resistance
- คือ จุดหรือช่วงราคาที่ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะ “ตีกลับ”
- แนวรับ(Support) : ราคาที่สินทรัพย์มีแนวโน้ม “เด้งกลับขึ้น” เมื่อราคาลงมาถึง
- แนวต้าน(Resistance) : ราคาที่สินทรัพย์มีแนวโน้ม “ถูกกดลง” เมื่อราคาขึ้นมาถึง
- Trend
- คือทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาค่าเงิน ซึ่งอาจ ขึ้น หรือ ลง
- ระยะเวลา: แนวโน้ม(Trend) มีทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
- อัตราเงินเฟ้อ
- นโยบายการเงิน
- สถานการณ์การเมือง
- Indicator
- เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ใช้ประมวลผลข้อมูลตลาด เช่น ราคา ปริมาณการซื้อ-ขาย
- ซึ่งมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับการใช้งานและรูปแบบการวิเคราะห์
- วัดแนวโน้ม: Moving Average, MACD
- วัดแรงกดดันซื้อขาย: RSI, Stochastic
- วัดโมเมนตัม: Bollinger Bands, Ichimoku Kinko Hio

คำศัพท์ Forex เกี่ยวกับความเสี่ยง

- Money Management
- การจัดการบริหารเงินทุนให้เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดของตัวเอง โดยมีแบบแผนรองรับที่ชัดเจนในแต่ละครั้งของการเทรด
- อาจจะมีการคำนวณและประเมินสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับสภาพของตลาดและจำนวนเงินทุน
- Risk-Reward Ratio
-
- อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน เปรียบเสมือนเครื่องมือวัดความคุ้มค่า
- ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ว่า การลงทุนมีความเสี่ยงและศักยภาพในการให้ผลตอบแทนคุ้มค่าหรือไม่
- สูตรคำนวณ : RRR = (ผลตอบแทนที่คาดหวัง) / (ความเสี่ยงที่ยอมรับได้)
- Drawdown
- คือ “ระดับความสูญเสียสะสม” ในบัญชีเทรด ซึ่งสะท้อน “ประสิทธิภาพการเทรด” ในอดีต
- การคำนวณ : DD% = ( สูงสุด – ต่ำสุด ) / สูงสุด * 100
- ตัวอย่าง: บัญชีเริ่มต้น 10,000 บาท ขึ้นไปสูงสุด 12,000 บาท ลงมาต่ำสุด 8,000 บาท
DD% = ( 12,000 – 8,000 ) / 12,000 * 100 = 33.33%
หมายความว่า บัญชีสูญเสียสูงสุด 33.33%
- Hedging
- กลยุทธ์การลงทุนที่ใช้ “เปิดสถานะตรงกันข้าม” กับ “สินทรัพย์ที่มีอยู่” เพื่อ “ลดความเสี่ยง” จากการเปลี่ยนแปลงของราคา
- ตัวอย่างเช่น : เทรดเดอร์กำลังเปิดออเดอร์ Buy ในคู่สกุลเงินหนึ่ง แต่ผลลัพธ์กลับติดลบ จึงทำการเปิดออเดอร์ Sell ขึ้น ณ จุดหนึ่งที่มีการวางแผนคำนวณไว้แล้ว เพื่อชดเชยการขาดทุนสำออเดอร์ Buy ที่ได้เปิดไว้ก่อนหน้า
- Margin Call
- สัญญาณเตือนจากโบรกเกอร์ เมื่อ “ระดับมาร์จิ้น” ของคุณ “ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด“
- หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ “เงินทุนของคุณไม่เพียงพอ” ต่อการรองรับ “ความเสี่ยงจากการเทรด”
- ผลที่ตามมา: บัญชีถูกบังคับขาย: โบรกเกอร์จะ “ขายสินทรัพย์บางส่วน” ในบัญชีของคุณ “ชดเชยเงินทุนขาด”
สรุป
คำศัพท์ Forex นั้นสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น
- คำศัพท์เกี่ยวกับสกุลเงิน , คู่เงิน , ราคา
- คำศัพท์เกี่ยวกับ ลักษณะและพฤติกรรมการซื้อ-ขายของ เทรดเดอร์
- คำศัพท์เกี่ยวกับการวิเคราะห์ ทั้งชเงเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน
- คำศัพท์เกี่ยวกับ ความเสี่ยงในการเทรด
ซึ่งคำศัพท์เหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มือใหม่ทั้งสิ้น เนื่องจากคำศัพท์ที่กล่าวมานั้นมีการใช้อย่างแพร่หลายและได้ยินบ่อยๆ การที่เข้าใจคำศัพท์จำนวนมากจะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจสิ่งที่กำลังศึกษาหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลอยู่ได้รวดเร็วมากขึ้น
บทความแนะนำ
เทคนิคการใช้ copy trade สำหรับนักลงทุน Forex ที่ไม่ชอบวิเคราะห์เอง
วิเคราะห์กราฟแท่งเทียนคืออะไร สำคัญกับการลงทุน Forex ยังไง
10 รูปแบบเทคนิคการเทรดยอดนิยม
จัดการความเสี่ยง: ลงทุน Forex อย่างไรให้ปลอดภัย
ลงทุน Forex ต้องมีระบบของตัวเอง หาจากไหน?
การลงทุน Forex ดียังไง? เปรียบเทียบข้อแตกต่างและข้อได้เปรียบในการเทรด
การใช้ EA ในการลงทุนเทรด Forex : เริ่มต้นยังไง? แบคเทสยังไง? ซื้อ EA ที่ไหน?
การเทรด Forex ในช่วงเวลาของการประกาศข่าวสำคัญ